กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่โลกโซเชียลให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ จากกรณีถนนลาดยาง-ไฟส่องสว่าง สุดทางกลางทุ่งนา ยังไม่มีหน่วยงานใด รับว่าเป็นผู้ก่อสร้าง ชาวบ้านเผยดำเนินการก่อสร้างอยู่ประมาณ 20-30 วัน ก็แล้วเสร็จ แถมไม่เกิดประโยชน์กับชาวบ้านมากนัก
เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าว Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคอีสาน รายงานว่าชาวบ้านในจังหวัดยโสธรลงพื้นที่ตรวจสอบถนนลาดยางพร้อมระบบไฟส่องสว่างโซล่าเซลล์ระยะทางกว่า 1.7 กม. หลังมีคนในพื้นที่ร้องเรียนว่าถนนสายนี้ก่อสร้างอยู่กลางทุ่งนาไม่ได้เชื่อมต่อหมู่บ้านและเป็นทางตัน ไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยงานใดที่เข้าไปดำเนินการก่อสร้าง
ต่อมา นายอดุลย์ วันดี ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดยโสธร ลงพื้นที่บริเวณกลางทุ่งนาพื้นที่บ้านเหมือด ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร เพื่อตรวจสอบถนนลาดยางเลียบคลองชลประทานพร้อมระบบไฟส่องสว่างโซล่าเซลล์ พอสรุปได้ดังนี้
สอบถามชาวบ้านบอกว่าไม่ได้ใช้ประโยชน์มากอีกทั้งแสงสว่างจากไฟส่องสว่างข้างทางยังส่งผลเสียต่อการออกรวงของต้นข้าว ทำให้ออกรวงช้า เพราะข่าวนาปีเป็นข้าวไวต่อแสง สภาพถนนลาดยางผิวถนนกว้างประมาณ 5 เมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 1.7 กม. และมีระบบไฟส่องสว่างข้างทางโซล่าเซลล์ตลอดแนวจำนวนกว่า 30 ต้น
ด้านตัวแทนจากแขวงทางหลวงชนบทจังหวัดยโสธร ยืนยันว่า ไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างเนื่องจากไม่ได้เป็นพื้นที่รับผิดชอบของแขวงทางหลวงชนบท และโครงการของแขวงทางหลวงชนบทจะไม่มีระบบไฟส่องสว่างข้างทางที่เป็นโซล่าเซลล์
ส่วนที่มีป้ายประกาศผู้อำนวยการทางหลวงชนบท ติดตั้งอยู่ ได้ตรวจสอบแล้ว เป็นป้ายลอกเลียนแบบ ซึ่งถ้าเป็นของทางหลวงชนบทจริง ต้องมีตราประทับสัญลักษณ์ของทางหลวงชนบทอยู่ด้านหลังป้ายทุกแผ่น
ขณะที่ตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลฟ้าหยาด เจ้าของพื้นที่ก็ยืนยันว่า อบต.ฟ้าหยาด ไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง และไม่ทราบว่าใครเป็นคนดำเนินการก่อสร้างก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีหน่วยงานไหนเข้าไปขออนุญาตดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่แต่อย่างใด
โดยทาง ป.ป.ช.ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังโครงการชลประทานจังหวัดยโสธร ก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่ได้เป็นโครงการฯของชลประทานแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายรัฐศาสตร์ บุญโสม ผู้ใหญ่บ้านเหมือด บอกว่า ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าหน่วยงานไหนเป็นคนดำเนินการก่อสร้างถนน เพราะไม่เคยมีหน่วยงานไหนแจ้งให้ทราบมาก่อน เห็นเพียงมีผู้รับเหมาเข้าไปดำเนินการก่อสร้างเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้วโดยดำเนินการก่อสร้างอยู่ประมาณ 20-30 วัน ก็แล้วเสร็จ คาดว่าน่าจะเป็นของหน่วยงานชลประทานเนื่องจากเป็นถนนเลียบคลองส่งน้ำ
ผู้ใหญ่บ้านเหมือด ระบุว่า ถนนเส้นนี้ไม่ได้เกิดประโยชน์กับชาวบ้านมากนัก เนื่องจากอยู่กลางทุ่งและเป็นทางตันโดยเฉพาะการติดตั้งระบบไฟส่องสว่างข้างทางที่ไม่มีความจำเป็นเลย
คลองส่งน้ำสายนี้ก็ใช้งานจริงไม่ได้เนื่องจากน้ำไม่สามารถไหลมาถึงบริเวณนี้ได้ เพราะสถานีสูบน้ำ ที่สูบน้ำจากแม่น้ำชีที่อยู่ไกล คนละตำบลจึงทำให้น้ำไม่ไหลมาถึงจุดปลายคลอง
ขณะเดียวกันด้านชาวเน็ตหลายคนบอกควรพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการสร้างเป็นแลนด์มาร์กจุดชมวิวหรือแคมป์ปิ้งเคาท์ดาวน์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึงนี้ไปเลย คาดว่ากระแสตอบรับน่าจะดี ทำให้เจ้าของที่นามีรายได้อีกด้วย
เรียบเรียงโดย : daratop.com ที่มา : Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคอีสาน,แขวงทางหลวงชนบทยโสธร
