ข้อความสุดซึ้งถึงพ่อที่อยู่ไกลจาก 1 ภาพล้านความรู้สึก

   

       จากกรณีดราม่า "การรับปริญญา" ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งสโมสรนักศึกษาม.เชียงใหม่ ไม่ประสงค์จะรับพระราชทานปริญญาฯ จนทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันไปต่าง ๆ นานา

       ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Padipon Apinyankul นำภาพไวรัลในงานรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยในปีก่อนหน้ามาแชร์อีกครั้ง พร้อมเขียนข้อความสุดซึ้ง จาก 1 ภาพล้านความรู้สึกเล่าว่า...

วันก่อนเห็นข่าว การต่อต้านการเข้ารับปริญญาที่ ม.เชียงใหม่  แล้วเศร้าใจ แต่วันนี้ เห็นภาพนี้  แล้วน้ำตาไหล ..ไม่ได้น้ำตาไหล ให้กับกลุ่มหนุ่มสาวที่ต่อต้านแต่น้ำตาไหลให้กับ กลุ่มหนังเหี่ยวย่น ที่พยายามทอดกายให้ลูกๆ ได้เหยียบ เพื่อก้าวข้ามไปข้างหน้าลูก ๆ บางคน สนุกกับเหยียบคน และโลดแล่นด้วยความซ่า คึกคะนอง โดยลืมมองความรู้สึกของ "#หยดน้ำข้าวใกล้ตัว" การรับปริญญา มันอาจจะเป็น "แค่" การเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง (ในความล้มเหลวหลาย ๆ ครั้ง) ของชีวิตหลาย ๆ คนและลูก ๆ อาจจะว่า การไม่ร่วมรับปริญญา เพราะปริญญา "ไม่ใช่ความสำเร็จในชีวิต" ของผม ของหนูแต่พวกคุณลืมไปว่า มันคือ  "ความสำเร็จของพ่อ ของแม่" ตลอด 19-20 ปี .. 

นับจากอนุบาล จนถึงวันนี้ .. ลูกไม่ได้เรียนคนเดียว .. ลูก ๆ คิดเองว่า  ฉันจะไปโรงเรียนคนเดียว  แต่อีกด้านหนึ่ง 

- จอบ เสียม ..  หักไปกี่ด้าม 

- มือ บ่า และไหล่ .. เนื้อแตก และปวดร้าวไปกี่หน 

- เหงื่อ และ น้ำตา กับการแบกหน้าไปกู้หนี้ยืมสิน เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่ากิน ค่าเสื้อผ้า .. มีมากี่ครั้ง  กายหยาบ ๆ  เหี่ยว ๆ ทำงานหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน .. แต่ใจในอกนั้นอยู่ที่โรงเรียน ที่ ๆ ลูกเรียน 

19 ปี สำหรับลูก  .. มันอาจจะไร้ค่า .. ความรู้ใน 19 ปี .. สู้ความรู้ในมือถือแค่ 3 นาทีไม่ได้ปริญญาใบนี้ .. ถ้าคิดว่า มันไม่ใช่ความสำเร็จของลูก ๆ ก็ขอให้ ถือว่า #เป็นความสำเร็จของพ่อ นะถึงลูกจะด้อยค่า ไม่อยากรับ  แต่ขออย่าฉีกมันทิ้งถือว่า  "เอามาให้พ่อนะ .. "

พ่อไม่กล้าเอาไปอวดใคร .. แต่พ่อเอาไว้อวด  "เหงื่อไคล"  ของพ่อเอง

       หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปทำชาวเน็ตหลายคนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิเช่น "จำได้ว่าแม่และพ่อเตรียมชุดใหม่ๆผ้าไหมอย่างดีไว้เพื่องานนี้ รวมทั้งญาติๆด้วยที่มา" เจ้าของโพสต์ยังบอกอีกว่า..เขียนด้วยความคิดถึง "พ่อ" ของผมเอง อย่างจับใจ .. คิดถึง ดวงวิญญาณที่อยู่ไกล พ่อไม่มีโอกาสได้เรียน แม่ไม่มีโอกาสได้เรียนลูกจึง ทำหน้าที่ "เรียนแทนพ่อ"

เรียบเรียงโดย : daratop.com ที่มา : Padipon Apinyankul

0
0
0