
จากกรณีที่เจ้าของบ้านนับสิบหลังในกาญจนบุรีเดือดร้อนหนัก หลังเจ้าของที่ดินข้างเคียง ถมที่ดินเกือบมิดหลังคาบ้าน พบเวลาฝนตกน้ำไหลทะลุกำแพงเข้าบ้าน หวั่นทำกำแพงพังทับบ้าน ยื่นเรื่องร้องเรียนหลายหน่วยงานจนเป็นข่าวดังในโลกโซเชียล
คืบหน้าตอนนี้ทางเทศบาลได้มีการสั่งระงับการก่อสร้างและถมที่ดินในบริเวณดังกล่าวเอาไว้ก่อน เพื่อรอให้มีการตรวจสอบความถูกต้องของการถมที่ดิน
ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ย.64) เจ้าของที่ดินได้ออกมาเผยอีกมุม กับผู้สื่อข่าวช่อง 3 คำชี้แจงจากเจ้าของที่ดินแปลงที่มีการถมที่ดินและสร้างกำแพงปูนสูง ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่าได้ซื้อที่ดินมาจากเจ้าของคนเก่า โดยที่ดินแปลงนี้ เป็นพื้นที่ลาดต่ำจากถนน ซึ่งอยู่ด้านหน้าลาดเอียงด้านหลัง ต้นจึงมีความจำเป็นต้องถมดินเพื่อให้เท่ากับระดับ ที่ดินของพื้นที่ด้านขวาซึ่งอยู่ติดกับที่ดินที่ตนซื้อมา
ยืนยันว่าการถมที่ดินถมให้สูงเท่ากับระดับพื้นผิวถนนไม่ได้สูงเกินกว่าระดับพื้นผิวถนนแต่อย่างใด เมื่อถมไปได้ระยะหนึ่ง พื้นที่ด้านหลังยังไม่เท่ากับด้านหน้า ก็ได้รับการท้วงติงจากชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียงว่าพื้นที่ที่ถมไปนั้นสูงเกินไป จึงได้หยุดการถมดินเอาไว้ก่อน
ต่อมามีเจ้าหน้าที่ จากทางเทศบาลตำบลลาดหญ้าเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งก่อนจะดำเนินการถมดิน ตอนยืนยันว่าได้มีการขออนุญาตถูกต้องและมีวิศวกรควบคุมโครงการ
สาเหตุที่สร้างกำแพงสูงกว่าด้านบนที่ดิน
การก่อสร้างกำแพงด้านบนที่ดินที่มีการถมแล้วนั้น ยืนยันว่าสร้างเพื่อป้องกันไม่ให้ ช่างก่อสร้างมองเห็นเข้าไปภายในบ้านของชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียงซึ่งอาจจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลจึงจำเป็นต้องสร้างกำแพงดังกล่าวเพื่อป้องกัน
ชี้แจงเรื่องน้ำที่ไหลออกจากกำแพง
ในส่วนของเรื่องน้ำ ที่ชาวบ้านในหมู่บ้านร้องเรียนว่าไหลจากที่ดินเข้าไปในบ้านของชาวบ้านนั้น ทนได้ให้ช่างไปตรวจสอบพบว่า น้ำดังกล่าวเป็นน้ำที่มาจากท่อหน้าบ้านของชาวบ้านเอง อันเนื่องมาจากน้ำเสียของหมู่บ้านอยู่สูงกว่า บ้านของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าเป็นไปตามคำกล่าวอ้างของเจ้าของที่ดินดังกล่าวหรือไม่ต่อไป
เรียบเรียงโดย : daratop.com ขอขอบคุณที่มา : เรื่องเล่าเช้านี้