
จากกรณีที่สมาชิกพันทิปรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์กระทู้สอบถามถึงวิธีการคืนรถยนต์ ที่ซื้อมา 4 ปี (48 งวดโดยประมาณ) คิดเป็นเงินมูลค่ามากกว่า 500,000 บาท แต่ทนค่าซ่อมไม่ไหว เพราะมีปัญหาตั้งแต่ปีแรกที่ใช้งาน เช่น กระจกด้านข้างคนขับแตกโดยไม่ทราบสาเหตุ
ต่อมาปีที่ 2 ขณะขับใช้งานกระจกด้านข้าง ฝั่งซ้ายเกิดการแตก (อีกฝั่ง) และปัญหาอื่นๆ อีกเพียบ จนทำให้เจ้าของรถรับไม่ได้ทั้งที่รถก็วิ่งใช้งานเลขไมล์แค่ 5 หมื่นกว่า ที่เราได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ สาวสุดจะทน ซื้อรถยี่ห้อดัง ทนค่าซ่อมไม่ไหวอยากขอคืนรถ
โดยด้านเจ้าของรถได้ตั้งประเด็นที่ขอความช่วยเหลืออยู่ 3 ข้อดังนี้
1.เราจะเรียกร้องความเป็นธรรมได้จากที่ไหนบ้าง / หรือแจ้งได้ที่ไหนบ้าง
2.หากจะคืนรถให้ศูนย์และไม่ประสงค์ขอผ่อนชำระต่อ จะสามารถกระทำได้หรือไม่
3.ถ้าหากเราไม่ผ่อนชำระค่างวดต่อแล้ว และส่งคืนรถให้ศูนย์ จะเป็นอะไรหรือไม่
ขอตอบคำถามสิ่งที่จะขอความช่วยเหลือคือ
1.เราจะเรียกร้องความเป็นธรรมได้จากที่ไหนบ้าง / หรือแจ้งได้ที่ไหนบ้าง
ตอบ : ได้แต่น่าจะเหนื่อยมาก มันไม่เหมือนร้านสะดวกซื้อทำแซนด์วิชอบร้อนข้างนอกไหม้ ข้างในเย็น แล้วขอเปลี่ยนอันใหม่ มันไม่ง่ายขนาดนั้น
2.หากจะคืนรถให้ศูนย์และไม่ประสงค์ขอผ่อนชำระต่อ จะสามารถกระทำได้หรือไม่
ตอบ : ศูนย์ไม่เกี่ยวแล้ว แต่คนที่เกี่ยวเต็มๆ คือเจ้าหนี้ของคุณ ในที่นี้คือไฟแนนซ์
3.ถ้าหากเราไม่ผ่อนชำระค่างวดต่อแล้ว และส่งคืนรถให้ศูนย์ จะเป็นอะไรหรือไม่
ตอบ : ลองคุยกับไฟแนนซ์ก่อน
ขณะเดียวกัน ด้านทนายธวัชชัยเผยอีกว่า "รถที่ผ่อนอยู่เป็นรถที่ไฟแนนซ์เป็นเจ้าของ ศูนย์บริการไม่ใช่คู่สัญญากับเรา ถ้าจะคืนรถก็ต้องคืนให้กับไฟแนนซ์ ส่วนการร้องเรียนเรื่องตัวรถก็ต้องไปร้องเรียนที่ สคบ. ถ้าคืนรถไปไม่ผ่อนต่อ ถ้าจ่ายค่างวดมาน้อยก็ต้องมีส่วนต่าง เรื่องส่วนต่างถ้ามีจดหมายทวงหนี้มาแนะนำว่าไม่ต้องจ่าย ให้ฟ้องคดีมา เมื่อได้รับหมายศาลแล้วให้ปรึกษาทนายความเพื่อทำยื่นคำให้การสู้คดี
สู้คดีแล้วอาจจะไม่ต้องจ่ายส่วนต่างที่ถูกฟ้องเลย หรือถ้าต้องจ่ายก็จ่ายน้อยกว่าที่ถูกฟ้องครับ อย่าให้รถไปผ่อนต่อโดยไม่เปลี่ยนสัญญา การทำบันทึกต่างๆเป็นแค่กระดาษ คนที่เอารถไปถ้าไม่ผ่อนต่อ คนที่เช่าซื้อ คนค้ำ ก็ถูกฟ้อง" ทนายธวัชชัยกล่าวฯ
เรียบเรียงโดย : daratop.com ขอขอบคุณที่มา : รถมีปัญหา Car Complaints, Thailand