
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในโลกโซเชียล TikTok เมื่อโพสต์คลิปหลักฐานกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้าน ว่ามีแมวของตนขึ้นไปบนหลังคารถ รถสปอร์ตยี่ห้อโลตัส สีเหลือง และรถบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ โดนแจ้งความ ข้อหาปล่อยสัตว์สัตว์ร้ายเที่ยวตามลำพังทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายคดีขึ้นชั้นศาลคันสีเหลืองเรียกค่าเสียหาย 108,000 บาท โดยได้โพสต์คลิปพร้อมระบุว่า.....
ลูกทำแมวหลุดออกจากบ้านขณะเปิดประตูขึ้นรถโรงเรียนและขึ้นรถบ้านข้างๆกัน เขาไปแจ้งความ ตำราจแจ้งข้อหาปล่อยสัตว์ดุสัตว์ร้ายเที่ยวตามลำพังทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายคดีขึ้นชั้นศาลคันสีเหลืองเรียกค่าเสียหาย 108, 000 บาท บอกว่าเป็นรถหรู ติดสติ๊กเกอร์จึงต้องแพงคันสีดำเป็นป้ายแดง รถเคลือบแก้วอย่างดีในคลิปวีดีโอน้องไม่ได้ข่วนอะไรเลย แต่น้องขึ้นไปนั้งและลงมา เราเจ้าของแมว ไปดูในวันเกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยอะไรเลยค่ะ มีแค่รอยเท้าฝุ่น วอนสังคมช่วยเราด้วยค่ะ เราโดนฟ้อง2คดีแมวขึ้นรถ2คัน
แมวหลุดไปบ้านคนอื่น
น้องไปขึ้นบนหลังคารถ
รถสปอร์ตยี่ห้อโลตัส สีเหลือง และรถบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ต.ค.63 หลังลูกตนมาเล่าว่า ช่วงเช้าเปิดประตูกำลังจะออกไปขึ้นรถโรงเรียน แต่แมวในบ้านวิ่งออกไปท่ามกลางฝนที่ตกอยู่ ซึ่งลูกก็ตามหาอยู่สักพัก แต่ไม่เจอ เลยต้องขึ้นรถไปก่อน
กระทั่งช่วงบ่าย เพื่อนบ้านรายนี้ส่งคลิปแมวของตนปีนรถสปอร์ต สามีบอกให้ตนทราบและจะขอไปดูความเสียหาย พอช่วงค่ำเข้าไปดู ก็เห็นเพียงรอยเท้าแมวเปื้อนดิน สามีก็ถามไปว่ารอยที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากการใช้งานหรือไม่ เขาก็ยืนยันว่าเกิดจากแมว และเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 100,000 บาท โดยอ้างไปประเมินราคามาแล้ว จะให้จ่ายสดหรือผ่อนก็ได้ ไม่งั้นจะแจ้งความ ทั้งที่ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน และบ้านเขายังเคยมานั่งดื่มเบียร์ที่บ้านตนกันด้วย
ตอนแรกตนก็ไปคุยไกล่เกลี่ย ยอมรับว่าผิดจริงที่ปล่อยแมวออกไปจากเหตุสุดวิสัย พร้อมที่จะใช้ค่าเสียหายที่สมเหตุสมผล ไม่ได้นิ่งดูดาย แต่ทราบมาว่าเขาซื้อรถยี่ห้อโลตัส มือสองคันนี้ผ่านมาถึงเขาเป็นมือที่ 4 แล้ว และเอาออกไปใช้งานบ่อย ไม่ทราบว่าจะเกิดจากร่องรอยอื่นหรือไม่ อีกทั้งก่อนเกิดเรื่อง ยังเคยมีสุนัขจรจัดวิ่งเข้าไปตะกุยตะกายรถเขา เพราะไม่ชอบปิดประตูบ้าน แต่ยังตกลงกันไม่ได้
ตอนมีหมายเรียกจากตำรวจ สภ.ลำลูกกา ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาปล่อยปละละเลยให้สัตว์ดุหรือสัตว์ร้ายเที่ยวไปโดยลำพังในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ซึ่งตำรวจบอกกับตนให้รับสารภาพว่าเป็นแมวตัวเองจริง ส่วนเรื่องอื่นให้ไปสู้กันชั้นศาล ตนยังยืนยันว่าเหตุที่แมวหลุดไปเป็นเรื่องสุดวิสัย กระนั้นก็เสียค่าปรับไป 500 บาท จนมีนัดไกล่เกลี่ยที่ศาลถึง 2 ครั้ง
คู่กรณีก็ไม่มา กระทั่งครั้งสุดท้ายไปพบกันก็ตกลงไม่เอาเรื่องกัน ฝ่ายนั้นไม่ติดใจเอาเงินอะไร แต่พอหมดวัน เขาก็มาหาตนที่บ้าน บอกว่าให้โอนเงิน 5 หมื่นบาทไปให้เขา โดยไม่ต้องบอกใคร ตนก็ไม่ยอม บอกให้ไปคุยกันดีๆ มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร เขาก็ไม่ยอม ก็ไม่ทราบว่าเป็นการเรียกเงินไปเปลี่ยนสีสติ๊กเกอร์รถเองหรือไม่ เพราะตอนนี้รถเป็นสีอื่นแล้ว และเรื่องจึงลากยาวมาหลายปีเช่นนี้
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
เจ้าของรถเขาอาจจะทนมา 99 ครั้ง
ขอบคุณทุกคอมเม้นค่ะ เป็นเหตุสุดวิสัยค่ะ ไม่ได้ตั้งใจให้แมวหลุดไปค่ะ เราไม่ได้นิ่งดผุดายค่ะ เราได้เข้าไปดูทันทีค่ะ และมีรูปถ่ายวันเกิดเหตุ
อย่าบอกว่าลูกทำหลุดเลยค่ะ แมวไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน รถเราเป็นเคยรอยเพราะคนสะเพร่าทำแมวหลุดแบบนี้ อยากให้เป็นกรณีศึกษาเหมือนกันค่ะ
อย่าปล่อยให้ไปเข้าบ้านคนอื่นดีที่สุดครับเลี้ยงแล้วก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วยเกิดอะไรขึ้นก็ต้องรับให้ได้ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือมากเพราะนิสัยแมวมันชอบเที่ยว
ล่าสุด ศาลชั้นต้นตัดสินให้ตนจ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน 57,000 บาท โดยตนกำลังยื่นอุทธรณ์อยู่ ซ้ำล่าสุดยังถูกบริษัทประกันภัยของรถบีเอ็ม ฟ้องร้องค่าเสียหายเป็นเงินอีก 59,000 บาทเศษ ตนก็อยากได้รับความยุติธรรม เพราะมองว่าไม่ถูกต้อง
เรียบเรียงโดย :daratop.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก pattarawadeephumipak