นอกจากข้าวของจะพากันทยอยขึ้นราคา และส่งผลกระทบเป็นอย่างมากเลยตอนนี้ สำหรับ ราคาน้ำมันแพงขึ้น มาจากปัจจัยภายนอก ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกือบจะแตะ 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ทำให้ประเทศซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอย่างประเทศไทยได้รับผลกระทบ ต้องใช้น้ำมันราคาแพงไปด้วย ปรับขึ้นรายวันเลยทีเดียว
ล่าสุด ทางด้านเพจเฟสบุ๊ก บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ ได้โพสต์ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการเติมน้ำมัน เราจะถูกหักเป็นภาษีอะไรบ้าง โดยได้โพสต์ระบุว่า....
มาดูกันว่าเติมน้ำมัน 100 บาทเราเสียภาษีอะไรบ้าง
1. ราคาหน้าโรงกลั่น คือ ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ยังไม่ได้รวมภาษี กองทุน และค่าการตลาด
2. ภาษี เป็นส่วนที่รัฐบาลเรียกเก็บเพิ่มเติมจากราคาน้ำมัน เพื่อนำไปเป็นรายได้ในการพัฒนาประเทศ ประกอบด้วย ภาษีสรรพสามิต, ภาษีมหาดไทย (ภาษีเทศบาล) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ภาษีสรรพสามิต คือภาษีที่จัดเก็บสินค้าที่มีผลกระทบต่อสังคม ซึ่งสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการจำกัดการใช้ของสินค้าเหล่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นการจัดหารายได้ให้แก่ภาครัฐ ซึ่งเงินส่วนหนึ่งอาจนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งน้ำมันแต่ละชนิดจะมีอัตราเรียกเก็บที่แตกต่างกันไป
ภาษีมหาดไทย (ภาษีเทศบาล) เรียกเก็บเพื่อเป็นเงินอุดหนุนและดูแลในพื้นที่ที่มีโรงกลั่นตั้งอยู่
ภาษีมูลค่าเพิ่ม คิดเพิ่มจากราคาขายส่งและขายปลีก เช่นเดียวกับสินค้าอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 7%
3. เงินกองทุนที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน 2 กองทุน
เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเป็นเงินสำรองไว้ใช้ในยามที่ราคาน้ำมันมีความผันผวน คือเมื่อราคาน้ำมันตลาดโลกสูงเกินไป ก็จะใช้เงินส่วนนี้เข้ามาพยุงราคาขายปลีกในประเทศไว้นั่นเอง ซึ่งน้ำมันแต่ละชนิดจะมีอัตราเรียกเก็บที่แตกต่างกัน
เงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อนำไปส่งเสริมด้านพลังงานทดแทนในประเทศ โดยน้ำมันทุกชนิดโดนเก็บเท่ากันในอัตรา 0.10 บาท/ลิตร
4. ค่าการตลาด คือ ส่วนที่ผู้ค้าน้ำมันเก็บเพื่อนำไปใช้จ่ายในส่วนของการให้บริการผู้ใช้ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถกำหนดเองได้อย่างเสรี แต่ต้องอยู่ภายใต้กลไกตลาดควบคุม เป็นผลตอบแทนของการลงทุนก่อสร้างคลังน้ำมัน ระบบขนส่ง การก่อสร้างสถานีบริการ การส่งเสริมการขาย และค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจทุกอย่าง รวมถึงค่าใช้จ่ายบุคลากร ค่าการตลาดจึงไม่ใช่กำไรของผู้ประกอบการ แต่เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจซึ่งรวมถึงกำไรด้วย
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
กองทุนน้ำมัน 0.8% เข้าใจเลยว่าทำไมถึงติดลบเอารัวๆ วิธีการแก้จริงๆมีหลายวิธี :
- วิธีที่ 1 : เอาเงินภาษี (ไม่แน่ใจส่วนไหน) มาใส่กองทุนน้ำมันอีกที (รัฐใช้วิธีนี้ กู้มาใส่)
- วิธีที่ 2 : ลดภาษีสรรพสามิต เพิ่มเงินกองทุนน้ำมัน (เน้นน้ำมันคงที่และภาษีสู่ผู้ใช้โดยตรง)
- วิธีที่ 3 : ไม่เก็บภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมัน (ลอยตัว/ไม่ต้องเสียค่าดำเนินการเก็บภาษีทั้งหลาย แต่รัฐไม่ได้ภาษีต้นน้ำ)
บางที วิธีที่ 1 คือ วิธีที่รัฐได้ภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่อย่าลืมว่า วิธีที่ 3 ทำให้เงินเฟ้อต่ำ ภาคธุรกิจไม่ต้องขึ้นราคาและประชาชนมีกำลังซื้อ ก็จะเก็บภาษีที่มากขึ้นเช่นกันเสมือนเป็นภาษีปลายน้ำ
เอาจริงๆ ต้องลองคำนวณว่า ภาษีน้ำมันลดลง 1% แล้วทำให้เก็บภาษีอย่างอื่นจากกำลังซื้อภาคประชาชนและภาษีจากภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้นกี่ % ถ้าคุ้มก็ทำเถอะครับ
ภาษีนำมาบริหารประเทศ
ช่วงนี้ ลดภาษีหน่อยไม่ได้หรอคะ
จากข้อมูลนี้ต้องบอกเลยว่าภาษีก็โดนหักไปครึ่งแล้วเลยทีเดียว ภาษีเยอะมากๆ เดือดร้อนกันมากเพราะว่าน้ำมันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน
เรียบเรียงโดย : daratop.com ขอบคุณข้อมูลจาก TrueID, บัญชีอย่างง่าย เพื่อเจ้าของกิจการ